ปัญหาการหาที่วางสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถ้าวัสดุที่ใช้ทำชั้นวางของนั้นไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่ควรจะเป็น รวมทั้งการเสื่อมสมภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวของชั้นวางของได้ คงจะเป็นการดีไม่น้อยใช่ไหมคะ ถ้าเราหาชั้นเหล็กวางของดี ๆ สักชิ้นมาไว้ภายในบ้าน เพื่อรองรับฟังก์ชันในการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพไม่เกิดความเสียหายต่อตัวชั้นวางของและอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ชนิดต่าง ๆ นั่นเอง 

ประเภทของชั้นวางของ 

ชั้นวางของถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการรับน้ำหนักของสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องการหาที่จัดวางภายในอาคารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านอาหาร ธนาคารหรือสถานที่ต่าง ๆ ก็สามารถนำชั้นวางของนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ทุกเมื่อ ประเภทของชั้นวางของนั้นสามารถแบ่งออกได้มากมายหลากหลายชนิด ได้แก่ 

ประเภทของวัสดุที่ใช้ทำชั้นวางของ 

ชั้นไม้วางของที่ทำจากไม้ธรรมชาติ 

ชั้นไม้วางของที่ทำจากไม้ธรรมชาตินั้นจะมีข้อดีคือราคาที่มีความถูก มีน้ำหนักที่เบา สามารถนำไม้นั้นไปประยุกต์ใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้ต่อไป ถ้าเกิดชั้นไม้วางของนั้นเกิดความเสียหายหรือชำรุดจากอุบัติเหตุต่าง ๆ หรือธรรมชาติก็ตาม ข้อเสียก็คือความแข็งแรงและการเป็นรอยนั้นสามารถเกิดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีโอกาสสูงที่จะนำพาแมลงอย่างปลวกเข้าสู่บ้านอีกด้วย 

ชั้นเหล็กวางของที่ทำจากโลหะผสม 

ชั้นเหล็กวางของที่ทำจากโลหะผสมนั้นมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบตรงที่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างมากกว่าวัสดุอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้ประกอบเป็นชั้นวางของ แต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างมากมายหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะมีราคาที่แพงในการสร้างชั้นวางของจากโลหะ อีกทั้งยังกระบวนการซ่อมชั้นวางของที่ทำมาจากเหล็กนั้นทำได้โดยยาก ต้องใช้กรรมวิธีการหล่อเหล็กขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องใช้พลังงานในการทำให้เหล็กนั้นเกิดการหลอมละลาย ทำให้สิ้นเปลืองแรง สิ้นเปลืองพลังงานและทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นไปอย่างมาก และข้อจำกัดกับสถานที่ใช้นั้นต้องให้ห่างจากความชื้น เนื่องจากเหล็กที่ไม่ผ่านกระบวนการชุบนั้นจะเกิดคราบสนิมได้อย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ในปัจจุบันชั้นวางของที่ทำมาจากพลาสติกแข็งนั้นเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพลาสติกนั้นมีราคาที่ถูก สามารถสร้างสีสันและรูปทรงหรือรูปร่างได้อย่างง่ายดาย มีน้ำหนักที่เบากว่าชั้นเหล็กวางของ ที่สำคัญสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการนำไปใช้งานในสถานที่มีความร้อน เพราะจะทำให้พลาสติกนั้นเกิดความเสื่อมสภาพที่รวดเร็วนั่นเอง